โลกอินเตอร์เน็ต

โลกที่ไร้พรมแดน ไร้ขีดจำกัด ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

นาโนเทคโนโลยี

วิทยาศาสตร์จะเปลี่ยนไป ก้าวสู่ยุคที่ทันสมัยขึ้น

เทคโนโลยีโทรคมนาคม

เปิดโลกกระทัดของการสื่อสาร เชื่อมต่อได้เร็ว ก้าวไกลสู้ภายนอก

เทคโนโลยีการศึกษา

เด็กๆ มีสิทธิเท่าเทียมกัน แม้อยู่ห่างไกลก็เรียนได้

โลกอนาคต

ยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสูง เพื่อความสะดวก สบาย ของคนบนโลก

วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555

Knowledge Strategy


 Knowledge Strategy
การวางแผนกลยุทธ์ทางด้านองค์ความรู้ (Knowledge Strategy)
การวางแผนจัดการด้านองค์ความรู้และการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้นั้น ไม่ต่างจากการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ (
Business Strategy) กล่าวคือ ผู้บริหารองค์กรและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะต้องทราบให้แน่ชัดว่ากำลังจะนำศาสตร์ด้าน KM มาใช้เพื่อสร้างประโยชน์ในลักษณะใดต่อองค์กร โดยจะต้องทราบอย่างแน่ชัดว่าจะใช้งานและบริหารจัดการองค์ความรู้เหล่านั้นในลักษณะใดโดยให้อยู่บนพื้นฐานที่ว่าการลงทุนที่เกิดขึ้นกับระบบ KM ต้องสร้างประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร โดยจะต้องทราบอย่างแน่ชัดว่าจะใช้งานและบริหารจัดการองค์ความรู้เหล่านั้นในลักษณะใดโดยให้อยู่บนพื้นฐานที่ว่าการลงทุนที่เกิดขึ้นกับระบบ KM ต้องสร้างประโยชน์สูงสุดต่อองค์กรของตน ในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทย หากจะเริ่มต้นวางแผนออกแบบกลยุทธ์การจัดการองค์ความรู้ให้เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ก็อาจจะต้องว่าจ้างบริษัทผู้เชี่ยวชาญในการศึกษาเพื่อออกแบบระบบที่มีความสอดคล้องกับการกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ นอกนั้นจะต้องตระหนักว่า แม้จะมีการออกแบบกลยุทธ์ในการจัดการองค์ความรู้ไปแล้ว กลยุทธ์ดังกล่าวก็ควรจะได้รับการตรวจสอบอยู่เป็นประจำว่ายังมีประสิทธิภาพและเข้ากันได้กับกลยุทธ์ทางธุรกิจซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์การแข่งขันอยู่เสมอ


วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555

COP



ขุมทรัพย์ความรู้/Knowledge Assets

Domain     การใช้สังคมออนไลน์อย่างถูกวิธี
CoP             Social Network
           เป้าหมาย(Desird State)            การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องของการใช้สังคมออนไลน์ชีวิต  ประจำวันเราเพื่อให้ตระหนักถึงการใช้สังคมออนไลน์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ประเด็นหลัก                               ข้อดีข้อเสียของการใช้สังคมออนไลน์ในชีวิตประจำวัน




วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555

เทคโนโลยีอนาคต



       หลายๆ ท่านอาจจะจำได้ กับภาพยนตร์แอคชั่นต่างประเทศเมื่อหลายปีก่อน เมื่อตัวเอกของเรื่องที่เป็นตำรวจ ไล่ตามจับตัวร้ายโดยใช้เครื่องมือแห่งอนาคตที่สามารถบอกตำแหน่งของตัวร้ายในรูปแบบของแผนที่ บนเครื่องมือขนาดย่อมคล้ายๆ PDA ทำให้สามารถตามจับตัวผู้ร้ายได้ หรือจะเป็นซีรีส์อีกเรื่อง ที่ตัวเอกเป็นตำรวจเช่นกัน สามารถระบุตำแหน่งของรถยนต์ที่กำลังขับอยู่ ผ่านหน้าจอคอนโทรลในรถ และดูแผนที่ของจุดที่กำลังจะไปได้ ในตอนนั้นผู้ชมคงคิดไม่ถึงว่าอีกไม่กี่ปีให้หลัง ภาพการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวจะเป็นจริง และไม่ใช่เพียงแค่การใช้งานทางด้านการทหารหรือตำรวจเท่านั้น แต่ยังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราได้อีกด้วย 
        เทคโนโลยีดังกล่าวมีชื่อว่า GPS หรือระบบ Global Positioning System ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีใช้ช่วยในด้านการทหารในประเทศสหรัฐอเมริกา เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ท่านสามารถทราบตำแหน่งของจุดที่ต้องการได้ ด้วยระยะความแม่นยำสูง ความคลาดเคลื่อนเพียงแค่หลักเมตรเท่านั้น ระบบ GPS นี้เป็นการทำงานร่วมกันขององค์ประกอบสำคัญ 3 ส่วน ดังนี้
Description: http://www.mappointasia.com/images_MThailand/space.gif
1.
ส่วนอวกาศ (Space Segment) ระบบ GPS จะเป็นการทำงานของดาวเทียม GPS จำนวนทั้งหมด 24 ดวง ที่โคจรอยู่รอบโลก ที่ความสูงจากพื้นโลกประมาณ 20,000 กิโลเมตร เป็นตัวส่งสัญญาณบอกพิกัดของจุดที่ต้องการทราบ สัญญาณดังกล่าวจะต้องถูกส่งมาจากดาวเทียมอย่างน้อย 3 ดวงขึ้นไป ในการส่งพิกัดที่ถูกต้องมายังอุปกรณ์บนพื้นโลก
2.
ส่วนควบคุมดาวเทียม (Control Segment) ซึ่งอยู่บนพื้นโลก ประกอบไปด้วย 1 สถานีหลัก และ 5 สถานีย่อยที่กระจายกันอยู่ตามตำแหน่งต่างๆ ศูนย์ควบคุมนี้จะทำหน้าที่ในการควบคุมและติดต่อสื่อสารกับดาวเทียม รวมทั้งคำนวณผลจากดาวเทียมแต่ละดวง และส่งข้อมูลที่ได้โต้ตอบกลับไปยังดาวเทียม ทำให้ข้อมูลที่ได้รับอัพเดทตลอดเวลา
3.
ส่วนผู้ใช้ (User Segment) ในส่วนของผู้ใช้นี้ จะเป็นการดูตำแหน่ง หรือพิกัดที่ได้รับจากดาวเทียม ผ่านการประมวลผลจากเครื่องมือรับสัญญาณ เพื่อให้ได้จุดของตำแหน่งที่ต้องการทราบได้
Description: http://www.mappointasia.com/images_MThailand/space.gif
        หลายท่านคงสงสัยว่า การทำงานของระบบ GPS นี้จะมาช่วยอะไรในชีวิตประจำวันได้ นอกเหนือจากทางด้านการทหาร แต่ดังที่ได้กล่าวเอาไว้แล้วในข้างต้น เทคโนโลยีนี้ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในหลายด้าน ที่เห็นอย่าง ชัดเจนคือในงานที่เกี่ยวข้องกับด้านการสำรวจ เช่น การสำรวจทางด้านภูมิศาสตร์ วิศวกรรม สิ่งแวดล้อม การสำรวจเพื่อการทำแผนที่ การสำรวจทางทะเล นอกจากนั้น GPS ยังเป็นเครื่องมือ สำคัญให้กับเหล่านักบิน เพื่อช่วยการบอกเส้นทางหรือแผนที่ทางอากาศ และช่วยระบุจุดของเครื่องบินอีกด้วย
Description: http://www.mappointasia.com/images_MThailand/space.gif
        ไม่เพียงแค่นั้น ในหลายๆ ประเทศ เทคโนโลยี GPS ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันมากขึ้น ยกตัวอย่างในประเทศญี่ปุ่น GPS ได้ถูกนำมาใช้ร่วมกับเครื่องมือพิเศษ เพื่อช่วยในการระบุตำแหน่งของเด็ก หรือรถยนต์ ผ่านศูนย์บริการ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถโทรเข้าไปสอบถามตำแหน่งของสิ่งที่ต้องการได้ อีกทางหนึ่งคือการเข้าไปตรวจสอบด้วยตนเอง ผ่านระบบ Web-based ทีมีให้บริการด้วยเช่นกัน
Description: http://www.mappointasia.com/images_MThailand/space.gif
        ในประเทศทางแถบยุโรป เริ่มมีบางบริษัทนำเทคโนโลยี GPS มาช่วยในการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการของตนเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการส่ง SMS โฆษณาสินค้า หลายๆ ท่านอาจจะเคยได้รับ SMS เพื่อบอกว่าที่นี่ที่นั่นมีการลดราคาสินค้า แต่ด้วยการนำ GPS มาใช้ร่วมด้วยแล้ว ลักษณะของการได้รับ SMS จะเปลี่ยนไป เพราะเจ้าของสินค้าสามารถส่ง SMS ไปยังลูกค้าที่เพิ่งจะก้าวเข้ามาในห้างสรรพสินค้านั้นๆ ได้ทันที เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ SMS นั้นๆ ได้อย่างมาก (ที่สำคัญ ลูกค้าจะต้องใช้โทรศัพท์มือถือที่รองรับระบบ GPS ด้วยนะ)
Description: http://www.mappointasia.com/images_MThailand/space.gif
       มาดูในประเทศไทย ที่จะลืมเสียไม่ได้ หลายๆ ท่านคงเคยได้ยินการโฆษณาของระบบโทรศัพท์เจ้าดัง ที่สามารถตามหาตำแหน่งรถยนต์ที่ถูกขโมย เพื่อสั่งให้รถหยุดและไปตามกลับมาได้ ซึ่งนั่นคือความสามารถอีกอันหนึ่งของระบบ GPS เช่นกัน ซึ่งระบบดังกล่าวได้เตรียมจับมือกับผู้ให้บริการทางด้านแผนที่ เพื่อเตรียมพัฒนาบริการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ไม่เพียงแค่นั้น โทรศัพท์ระบบน้องใหม่อีกราย ยังนำเอาเทคโนโลยีนี้มาโชว์ให้ผู้ชมตื่นเต้นกันอีกด้วย บริการของเจ้าหลังจะเป็นไปไนด้านนำระบบ GPS มาประยุกต์ใช้กับคอนเทนต์หรือข้อมูลลักษณะต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันมากขึ้น เช่น การหาตำแหน่งของสถานที่ การหาเส้นทางการเดินรถ รวมไปถึงการระบุตำแหน่งของโทรศัพท์มือถือของตนเอง และการหาตำแหน่งของโทรศัพท์มือถืออีกเครื่องได้ด้วย
Description: http://www.mappointasia.com/images_MThailand/space.gif
       มาถึงตรงนี้ หลายๆ ท่านอาจจะอยากให้เทคโนโลยีนี้มีให้บริการอย่างแพร่หลายเร็วๆ เพราะจะได้ติดตามตำแหน่งของสิ่งต่างๆ (โดยอย่างยิ่งสิ่งที่คุณรัก) ได้ง่ายๆ ซักที ในทางตรงข้าม หลายๆ ท่านอาจจะไม่อยากให้ภาพเหล่านี้เกิดขึ้น เพราะอาจสร้างความลำบากให้กับตนเอง (จะทำอะไร ไปไหนไม่สะดวกเหมือนก่อน) แต่อย่างไรก็ตาม ก็ขอให้ผู้ให้บริการทั้งหลายอย่าลืมเพิ่มเรื่องสิทธิส่วนบุคคลในบริการต่างๆ ด้วยแล้วกันนะครับ
 

ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ



 เทคโนโลยี่สารสนเทศมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ เป็นอย่างมาก  ตัวอย่างเช่น

1.  การศึกษา  เทคโนโลยีสารสนเทศ  ช่วยในด้านการค้นคว้าศึกษาแหล่งข้อมูล      ทำให้การศึกษาง่ายขึ้นและไร้ขีดจำกัด   ผู้เรียนมีความสะดวกในการค้นคว้าวิจัย
2.  การดำรงชีวิตประจำวัน  ทำให้มีความสะดวกคล่องตัวและรวดเร็วในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน  สามารถทำงานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกันได้หรือทำงานใช้เวลาน้อยลง
3.  การดำเนินธุรกิจ  ทำให้มีการแข่งขันระหว่างธุรกิจมากขึ้น  ทำให้ต้องมีการพัฒนาองค์กรเพื่อให้ทันกับข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดเวลาอันส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง
4.  อัตราการขยายตัวทุก ๆ ด้านที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  เพราะมีการติดต่อสื่อสารที่เจริญก้าวหน้าทันสมัย  รวดเร็วถูกต้องและ    ทำให้เป็นโลกที่ไร้พรหรมแดน
5.  ระบบการทำงานมีคอมพิวเตอร์มาใช้ซื่อสามารถทำงานได้มากขึ้น   งานบางอย่างมนุษย์ทำไม่ได้ก็ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยทำงานแทนซึ่งได้ผลถูกต้องรวดเร็ว

ที่มา   HATYAIWITTAYALAI  SCHOOL

ประวัติความเป็นมาเทคโนโลยีสารสนเทศ



เทคโนโลยีสารสนเทคคืออะไร

Description: http://www.siit.tu.ac.th/thai/blank.gifเทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีในการนำคอมพิวเตอร์มาใช้งานจัดการกับข้อมูล ข่าวสาร หรือที่เรียกว่าสารสนเทศ ศาสตร์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นศาสตร์ที่ใหม่มาก และมีความสำคัญมากในสังคมปัจจุบัน และถือเป็นหนึ่งในสามศาสตร์หลัก (เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีนาโน เทคโนโลยีชีวภาพ) ที่ถูกกล่าวว่าจะมีผลต่อสังคมในอนาคตมากที่สุด โดยปัจจุบัน มีผู้กล่าวถึง เทคโนโลยีสารสนเทศกันอย่างกว้างขวาง โดยเราจะรู้จักกันทั่วไปในชื่อสั้นๆ ว่า ไอที (IT) รัฐบาลไทยเองก็เล็งเห็นความสำคัญด้านนี้มาก จึงมีการจัดตั้งกระทรวงใหม่ที่เกี่ยวกับงานทางด้านนี้ขึ้น ชื่อกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือเรียกย่อๆ ว่า กระทรวงไอซีที
Description: http://www.siit.tu.ac.th/thai/blank.gifเทคโนโลยีสารสนเทศนั้นมีลักษณะเด่นคือมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมาก เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัยเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ทุกวัน เช่น เราจะเห็นว่ามีการใช้อินเตอร์เน็ตกันอย่างแพร่หลาย มีการส่งอีเมล์ มีการท่องเว็บต่างๆ มีการส่งข้อมูลผ่านเว็บ มีการเล่นเกมออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ต นอกจากอินเตอร์เน็ตแล้ว ยังมีเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวกับมือถือ เช่น มีการส่งข้อมูลผ่านทางมือถือ มีการดาวโหลดข้อมูลต่างๆ รวมทั้งเพลงผ่านมือถือ มีการสืบค้นข้อมูลหรือเล่นเกมผ่านมือถือ เป็นต้น ในทางอุตสาหกรรมก็มีการนำระบบสารสนเทศเข้าไปช่วยเพิ่มผลผลิตในโรงงาน ช่วยควบคุมดูแลเครื่องจักรเพื่อผลิตสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้กระบวนการผลิตเป็นแบบอัตโนมัติ นอกจากนี้มีการนำสารสนเทศไปใช้ในงานด้านธุรกิจเพื่อทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพ โดยสามารถดูข้อมูลต่างๆ ได้ทันทีทั้งข้อมูลที่เป็นรายละเอียดและข้อมูลสรุป และช่วยในการสนับสนุนการตัดสิน บริษัทที่ทันสมัยทุกบริษัทต้องมีระบบสารสนเทศภายในองค์กร ในยุคต่อไป คอมพิวเตอร์จะมีขนาดเล็กลง มีความเร็วสูงขึ้น และมีหน่วยความจำมากขึ้น และที่สำคัญ ราคาของคอมพิวเตอร์จะถูกลงมาก ดังนั้นคอมพิวเตอร์จะเข้ามามีบทบาทในสังคมของเรามากขึ้น โดยเราจะเรียกสังคมนี้ว่าสังคมยูบิคิวตัส (Ubiquitous) คือคอมพิวเตอร์อยู่ทุกหนทุกแห่ง ดังนั้นการจัดการข้อมูลสารสนเทศที่เกิดจากคอมพิวเตอร์เหล่านี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก นอกจากนี้การบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศภายในบริษัทก็เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง จะเห็นได้ว่าบริษัทหรือองค์กรใหญ่จำเป็นต้องมีหน่วยงานด้านการจัดการระบบสารสนเทศ ปัจจุบันในโลกของธุรกิจ มีธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศมากมาย ซึ่ง นักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดก็คือ นักธุรกิจด้านไอที ซึ่งความจริงนี้แสดงให้เห็นว่า ไอทีได้เป็นศาสตร์ที่รับความสนใจและมีความสำคัญมากในสังคมปัจจุบันและต่อไปในอนาคต

ที่มา   SIIT

ไอบีเอ็มไตรมาส 4 ยังเติบโตต่อเนื่อง


IBM
ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนอยู่ที่ 5.5 พันล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้เพิ่มขึ้น 2% อยู่ที่ 2.95 หมื่นล้านดอลลาร์ ตัวเลขที่ออกมานั้นกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกัน แต่รายได้ต่ำไปเล็กน้อย โดยมาจากยอดขายฮาร์ดแวร์ที่ลดลง
ซีอีโอ Virginia M. Rometty กล่าวว่าไตรมาสนี้ยังเป็นไตรมาสที่แข็งแกร่งของไอบีเอ็มซึ่งส่งผลให้ตัวเลขรายได้ กำไรสุทธิ และกำไรต่อหุ้นของปี 2011 ออกมาเป็นสถิติใหม่ของบริษัท
ปัจจุบันไอบีเอ็มเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าตามราคาหุ้นสูงสุดอันดับ 2 รองจากแอปเปิล
ที่มา: The New York Times

ไมโครซอฟท์รายงานประกอบการไตรมาส ยังเติบโตได้ดี


Microsoft
ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินของบริษัท มีกำไรสุทธิ 6.62 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 0.1% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนรายได้เพิ่มขึ้น 5% เป็น 2.089 หมื่นล้านดอลลาร์
เมื่อจำแนกรายได้ตามส่วนธุรกิจ กลุ่ม Windows รายได้ลดลง 6% กลุ่มสินค้าธุรกิจ (Office) เพิ่มขึ้น 3% กลุ่มออนไลน์ (Bing) มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังขาดทุนเพิ่มอีกในไตรมาสนี้ 458 ล้านดอลลาร์ ส่วนกลุ่ม Xbox เติบโตสูงเป็นสถิติใหม่ เพิ่มขึ้นถึง 15%
นักวิเคราะห์ประเมินว่าปัญหาน้ำท่วมในไทยที่ส่งผลต่อยอดขายพีซีจะยังกดดันตัวเลขยอดขาย Windows ต่อไปอีก 1-2 ไตรมาส และในแง่ร้ายที่สุดก็สามารถผลักให้ผู้ซื้อพิจารณาแท็บเล็ตที่ iPad เป็นผู้นำตลาดอยู่มาใช้งานแทน ก็คงต้องรอให้ Windows 8 สำหรับแท็บเล็ตเริ่มจำหน่าย เพราะ Windows น่าจะเป็นทางเลือกที่บรรดาผู้ผลิตฮาร์ดแวร์หันมาใช้กัน
ที่มา: Bloomberg และ All Things D

[เก็บตก CES]ลองจับ OLPC XO-3 แท็บเล็ตร้อยเหรียญตัวล่าสุด



OLPC
เราเห็นภาพแรกของแท็บเล็ต OLPC XO-3 หรือแท็บเล็ตราคาถูกจากโครงการ OLPC ซึ่งเปิดตัวไปแล้วในงาน CES ที่ผ่านมา ซึ่งก็มีหลายเว็บได้ไปจับตัวเครื่องจริงๆ กันมาแล้ว ได้รายละเอียดเพิ่มเติมอะไรบ้าง ลองไปไล่ดูกันครับ

หน้าตาตัวเครื่อง และอุปกรณ์

ตัวจริงของ XO-3 ค่อนข้างหนากว่าในรูปที่เรนเดอร์มาในข่าวก่อนหน้า แต่ The Verge บอกว่าน้ำหนักค่อนข้างเบากว่าที่ตาเห็นพอสมควร (ตอนนี้ยังไม่มีสเปคอย่างเป็นทางการออกมา) วัสดุโดยรอบเครื่องเป็นยางถือกระชับมือดี และฝาหลังมีสองแบบคือมีแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 4 วัตต์ (ชาร์จกลางแดด 1 นาทีใช้ได้ 2 นาที) กับเป็นฝาหลังเฉยๆ
หน้าจอของ XO-3 เป็นจอสัมผัส resistive (แบบกด) ขนาด 8 นิ้ว มีจอสองชนิดคือแบบธรรมดา กับจอ PixelQi ที่ใช้อ่านกลางแจ้งได้
XO-3 มีพอร์ตครอบคลุมการใช้งานครบถ้วน มีทั้ง USB ขนาดเต็ม micro USB พอร์ตหูฟัง/ไมโครโฟน ขนาด 3.5 มม. และยังมีพอร์ตสำหรับเสียบสาย AC อีกด้วย
เนื่องจาก XO-3 โฟกัสไปที่โรงเรียนห่างไกลชุมชน ดังนั้นการทำให้ชาร์จได้ง่ายจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก และ XO-3 ก็ทำได้ค่อนข้างดีนอกจากการชาร์จผ่านพอร์ตบนตัวเครื่องแล้ว ยังสามารถชาร์จด้วยแผงโซลาร์เซลล์ และยังมีที่ปั่นไฟแบบมือหมุนมาด้วย (Engadget บอกว่าต้องหมุนเร็วพอสมควรถึงจะชาร์จได้) หมุน 1 นาที สามารถใช้งานได้ 10 นาที

ซอฟต์แวร์

ตัวซอฟต์แวร์ของ XO-3 ยังไม่เสร็จดีนัก แต่พอมีรายละเอียดว่าจะมีสองแบบคือเป็น Android รุ่นแท็บเล็ต หรือเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนามาจากลินุกซ์ในชื่อ Sugar OS ข้อมูลยังไม่มี งั้นดูหน้าตาไปก่อนละกัน

สเปค

ตรงส่วนนี้ยังไม่นิ่งนัก เพราะว่าผู้ซื้อ XO-3 สามารถปรับแต่งได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ได้สเปคคร่าวๆ มาดังนี้ครับ
  • ซีพียูใช้ของ Marvel Armada PXA618 ความถี่สัญญาณนาฬิกาตั้งแต่ 800 MHz-1 GHz
  • หน้าจอสัมผัส resistive ขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด 1024x768 พิกเซล มีสองแบบให้เลือกคือจอธรรมดา กับจอ PixelQi
  • พื้นที่ภายในจุ 4GB แรม 512MB
  • แบตเตอรี่ความจุ 1500-1800 mAh
  • กินไฟต่ำ น้อยสุดเพียง 2 วัตต์เท่านั้น
นอกจากนี้ Engadget ยังได้ไปสัมภาษณ์ทีมพัฒนาของ XO-3 ได้ความว่าใช้เวลาในการออกแบบกว่า 2 ปีจนมาลงที่หน้าตาแบบนี้ และตอนแรกมีแผนว่าจะใช้หน้าจอเป็นพลาสติกยืดหยุ่นได้ แต่ก็ต้องล้มไปเพราะใช้งานกลางแดดไม่ได้ และยังเป็นรอยง่าย จนทำให้ต้องเปลี่ยนแผนมาใช้กระจกแทน ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะใช้กระจกอะไร
ที่มา - EngadgetThe Verge

กูเกิลรายงานประกอบการไตรมาส 4 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด - Android 250 ล้านเครื่องแล้ว


Google
กูเกิลรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 กำไรสุทธิ 2.71 พันล้านดอลลาร์ หรือ 9.50 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่วนรายได้เพิ่มขึ้นถึง 25% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนอยู่ที่ 1.058 หมื่นล้านดอลลาร์ แม้จะออกมาเติบโตดีแต่ก็ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินกันไว้อยู่มากพอสมควร
เมื่อจำแนกส่วนรายได้แล้ว รายได้จากโฆษณาบนเว็บกูเกิลเองเพิ่มขึ้น 29% เป็น 7.29 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ส่วนของ Adsense เพิ่มขึ้น 15% อยู่ที่ 2.88 พันล้านดอลลาร์ ส่วนราคาต่อคลิกลดลง 8%
ซีอีโอ Larry Page กล่าวในแถลงการณ์ของบริษัทว่าภาพรวมตลอดปี 2011 ของกูเกิลนั้นเติบโตมาก มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 29% และรายได้ในไตรมาสล่าสุดก็สูงกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว ขณะที่ Google+ ก็มีผู้ใช้งานเกิน 90 ล้านคนแล้ว ซึ่งนี่ถือเป็นโอกาสที่ดีอย่างมากสำหรับกูเกิลในปี 2012
ข้อมูลเพิ่มเติมจากช่วงแถลงข่าวกับนักวิเคราะห์มีดังนี้ครับ
  • กูเกิลมีเงินสดในมือตอนนี้ 4.46 หมื่นล้านดอลลาร์
  • พนักงานเต็มเวลา 32,467 คน เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 คนจากไตรมาสก่อนหน้านี้
  • ถ้าหากไม่มีปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศผันผวนในช่วงที่ผ่านมา กูเกิลจะได้มีรายได้เพิ่มอีก 239 ล้านดอลลาร์
  • อุปกรณ์ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android มีถึง 250 ล้านเครื่องแล้ว
  • มีการเปิดใช้งาน Android 7 แสนครั้งต่อวัน
  • Google+ มีผู้ใช้งาน 90 ล้านบัญชีแล้ว โดย 60% ใช้งานทุกวัน 80% ใช้งานทุกสัปดาห์
  • GMail มีบัญชีใช้งาน 350 ล้านบัญชีแล้ว
  • กูเกิลถูกเลือกจากนิตยสาร Fortune ให้เป็นบริษัทที่น่าทำงานที่สุดในปี 2012 ติดต่อกันเป็นปีที่สาม
  • สาเหตุที่ราคาต่อคลิกลดลงมาก มาจากพฤติกรรมการดูโฆษณาบนอุปกรณ์พกพาทำให้เกิดคลิกมากขึ้น ราคาต่อหน่วยจึงปรับลดลง และปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนเงิน
ที่มา: All Things DBarron'sForbes และ Google+ ของ Larry Page

HTC ประกาศปลดล็อคมือถือเพิ่ม 7 รุ่น


HTC
HTC ยังเดินหน้าเพิ่มมือถือที่สามารถปลดล็อค bootloader ด้วยเครื่องมือที่โหลดได้จากเว็บ HTCDev โดยรอบนี้เพิ่มอีก 7 รุ่นดังนี้
  • Salsa
  • ChaCha
  • Status
  • Incredible
  • Desire Z
  • Aria
  • T-Mobile G2
ของใครเข้าข่ายก็ตามไปดาวน์โหลดเครื่องมือปลดล็อคกันเองที่ HTCDev.com
ที่มา - HTC Source via Android and Me

Capcom เปิดตัว Bio Hazard/Resident Evil 6 วางขายเดือนพฤศจิกายน


Capcom แถลงข่าวเปิดตัว Bio Hazard 6 เกมภาคล่าสุดของเกมซอมบี้สยองขวัญ (ชื่อในโลกตะวันตกคือ Resident Evil 6) ซึ่งเนื้อเรื่องจะเกิดขึ้น 10 ปีให้หลังจากเหตุการณ์ในเกมภาคแรก
พระเอกของเกมภาคนี้คือ Leon S. Kenedy และ Chris Redfield ส่วนสถานที่เกิดเหตุภายในเกมจะมีทั้งสหรัฐและจีน จากเทรลเลอร์เราจะเห็นว่าภาคนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐก็ติดไวรัสและกลายเป็นซอมบี้ด้วย
เกมเวอร์ชัน Xbox 360 และ PS3 จะวางขายวันที่ 20 พฤศจิกายน 2012 (ภาคญี่ปุ่นขาย 22 พฤศจิกายน) ส่วนเวอร์ชันพีซียังไม่ระบุ
ที่มา - Ars Technica